บริการด้านอาหาร: อาหารช่วยลดอาการอ่อนเพลีย

[siritidaphon]

บริการด้านอาหาร: อาหารช่วยลดอาการอ่อนเพลีย

เชื่อว่า หลายคนคงเคยมีความรู้สึกร่างกายอ่อนล้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แถมไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า โดยส่วนมากสาเหตุหลักมาจากการทำงานหนัก การประสบกับภาวะเครียดต่างๆ และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอและเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งอาจจะจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้ เพราะเมื่อใดก็ตาม ในส่วนต่างๆ ของร่างกายเราเกิดความผิดปกติมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนล้าเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การทำงานหรือกิจวัตรประจำวันได้ไม่ดีเท่าที่ควร เช่น ดวงตาอ่อนล้า สมองล้า แขน ขา มือ เท้าเมื่อยล้า ทำให้เรารู้สึกไม่สดชื่น หรือไม่มีสมาธิได้


ดังนั้น อาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยบำบัดอาการอ่อนเพลียเหล่านี้ สำหรับคนที่มีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง จะมีอาการที่คล้ายกับโรคไฟโบรมัยอัลเจีย ซึ่งจะมีอาการปวดเมื่อยคล้ายกับคนเป็นไข้หวัด โดยจะปวดตามกล้ามเนื้อและข้อมากเป็นพิเศษ รวมถึงมีอาการปวดศีรษะและมีไข้อ่อนๆ ด้วย นอกจากนี้ก็มักจะพบอาการทางจิตใจ คือซึมเศร้า อารมณ์ไม่คงที่ หงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยมีสมาธิและมักจะนอนไม่หลับอยู่เสมอ จนบางคนถึงขั้นต้องใช้ยานอนหลับช่วยเลยทีเดียว ดังนั้น ทางเราจะมาแนะนำอาหารที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยหลัก แถมหาซื้อง่าย ได้ประโยชน์  ช่วยปรับสมดุลร่างกายที่อ่อนล้าให้สดชื่นขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องใช้ยา แถมยังช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดีได้อีกด้วย


ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า อาหารมีความเกี่ยวข้องกับอาการอ่อนเพลียโดยตรง นั่นก็เพราะร่างกายของคนเราจำเป็นต้องได้รับพลังงานอย่างเหมาะสมและสารอาหารบางชนิดอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานพร้อมกับการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ดังนั้น หากร่างกายขาดสารอาหารบางอย่างก็จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย อาการเหนื่อยล้าได้นั่นเอง โดยสารอาหารที่มีผลมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น วิตามินบี ซึ่งมีความสำคัญที่จะช่วยเพิ่มการผลิตพลังงานจากอาหารให้ร่างกายมีพลังงานอย่างเหมาะสม ดังนั้นหากขาดวิตามินบีไป ก็จะทำให้ร่างกายอ่อนแรงลง และรู้สึกเพลีย นอนไม่ค่อยหลับ เฉื่อยชาหรือขาดสมาธิ ซึ่งพบว่าในคนที่ขาดวิตามินบีอย่างรุนแรง อาจถึงขั้นออกแรงแค่นิดหน่อยก็ล้มพับได้เลยทีเดียว


สำหรับอาหารที่ช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้นั่นก็คือ เนื้อสัตว์ เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีน โดยเฉพาะเนื้อที่ไม่ติดมัน เนื้อปลาและตับ และเนื้อสัตว์ยังมีธาตุเหล็กที่มีความสำคัญสามารถแก้อาการอ่อนเพลียและบำรุงเลือดได้ดี นอกจากนี้ธาตุเหล็กยังช่วยทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ดีมีผลทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วย ต่อมาสุดยอดอาหารอย่างไข่ ที่หารับประทานได้ง่าย นอกจากโปรตีนแล้วยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นต่อร่างกายที่ช่วยในการเสริมสร้างระบบการทำงานต่าง ๆ เช่น การทำงานของกล้ามเนื้อ การแข็งตัวของเลือด การย่อยอาหาร การมีบุตร และการเจริญเติบโต ทั้งนี้ โอเมก้า 3 ยังมีคุณสมบัติช่วยให้การทำงานของระบบสมองมีประสิทธิภาพได้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ก็สามารถช่วยให้อาการอ่อนเพลียหายได้ด้วยเช่นกัน เพราะวิตามินซี จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยผ่อนคลายอาการอ่อนเพลียและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการซึมเศร้าได้


ทั้งยังช่วยควบคุมในเรื่องการเจ็บปวดและการนอนหลับด้วย ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ก็ได้แก่ ส้ม สับปะรด ฝรั่ง มะม่วง สตรอเบอร์รี่ กล้วย มะยม มะขามและส้มโอ เป็นต้น นอกจากผลไม้แล้ว ก็ยังมีผักสด เนื่องจากสารอาหารและวิตามินต่างๆ ในผักมีประโยชน์และมีผลดีต่อระบบต่างๆ ในร่างกายของเรา แถมยังมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายอาการอ่อนเพลียได้อย่างดีด้วย ได้แก่ มันเทศ พริกหยวก ดอกกะหล่ำ ฟักทอง ถั่วลันเตา ถั่วแดง ถั่วฝักยาว บรอคโคลี่และข้าวโพด เป็นต้น

 
อย่างไรก็ตาม ทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เราทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ยิ่งเรามีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ดี ก็จะยิ่งช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เราจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายได้มีความสดชื่น สามารถออกไปเผชิญกับเรื่องราวต่างๆได้ในชีวิตประจำวัน