แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 28
1
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ








2
จัดฟันบางนา: ความคงทนและถาวร ของรากฟันเทียม

การฝังรากฟันเทียม เป็นการทำการทันตกรรมที่ใช้ในการทดแทนฟันธรรมชาติที่ทันสมัยหากเทียบกันการใส่ฟันปลอมในสมัยก่อน ที่ไม่ค่อยความแข็งแรงทนทานมากนัด เพราะทำจากพลาสติก และเมื่อสวมใส่แล้วก้ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น ทำให้หลุดง่าย ไม่มีความกระชับ และยังทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย รวมถึงเวลารับประทานอาหารก็ยังทำให้หลุดง่ายและรับประทานอาหารได้ไม่สะดวก ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไป ทางทันตกรรมก็มีนวัตกรรมที่ก้าวหน้าไปมาก คนเลยนิยมหันมาทำรากฟันเทียมมากขึ้น

ด้วยความสะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องค่อยถอดออก หรือใส่บ่อยๆ เพราะรากฟันเทียม สามารถใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติจริงๆ ดดยการฝังลงไปบนกระดูกขากรรไกรที่ใช้รองรับรากฟันเทียม จึงทำให้มีความสะดวกและเป็นธรรมชาติ และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายเพียงแค่แปรงฟันอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถถนอมอายุการใช้งานของรากฟันเทียมได้ และยิ่งหลังจากการฝังรากฟันเทียม ผู้เข้ารับการรักษามาการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีและถูกวิธีก็จะทำให้การใช้งานรากฟันในอนาคตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หลายคนมีข้อสงสัยว่า รากฟันเทียมนั้น มีอายุการใช้งานแค่ไหน มีความคงทนและถาวรหรือไม่ ต้องทำการเปลี่ยนรากฟันเทียมหรือไม่ หากใช้งานไปนาน บอกได้เลยว่า การฝังรากฟันเทียมนั้น ผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถมีรากฟันเทียมและใช้งานได้ถาวร มีความคงทนสามารถอยู่ได้ชั่วชีวิต ซึ่งอายุการใช้งาน หรือความคงทนนั้นจะขึ้นอยู่กับการดุแลรักษาที่ถูกต้องและถูกวิธีด้วย รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้เข้ารับการรักษาว่า มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างไร ซึ่งตัวรากฟันเทียมนั้นจะทำจากโลหะ และทำการฝังลงไปบนกระดูกขากรรไกร ซึ่งจะมีความแข็งแรงทนทานมาก หากรากฟันเทียมประสานกับตัวกระดูกอย่างสนิทแล้ว แม้ว่าการรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียมจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง

แต่ด้วยวัสดุที่นำมาผลิตเป็นรากฟันเทียม และความคงทน แข็งแรงแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะผู้เข้ารับรักษาจะสามารถใช้รากฟันเทียมได้ตลอดชีวิต หากไม่มีปัญหาใดๆ หลังจากการฝังรากฟันเทียม อย่างไรก็ตาม ในระยะแรก ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร ก็จะสามารถยืดอายุของตัวรากฟันเทียมได้ นอกจากตัวรากฟันเทียมแล้ว ยังมีเรื่องของฟันปลอมที่ต่ออยู่บนยอดของรากเทียม ที่จะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของ ครอบฟันหลวม ครอบฟันแตก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่ปัญหาที่กล่าวมานั้น เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อนมากเหมือนตัวรากเทียมที่เป็นโลหะ เพราะสามารถถอดออกมาเพื่อซ่อมแซมได้ เพราะเป็นส่วนที่สามารถอดออกได้ง่าย และไม่ทำให้เจ็บปวดใดๆ

สำหรับปัญหาส่วนใหญ่ที่จะส่งผลกระทบให้รากฟันเทียมเกิดการหลุดหรือโยกนั้น ก็มีอยู่หลายปัจจัย แต่หลักๆ มักจะเกิดขึ้นจากการละลายตัวหรือการหดตัวของกระดูกขากรรไกรที่ใช้รองรับรากฟันเทียม โดยบริเวณรากฟันเทียมที่เกิดภาวะโรคปริทันต์ โดยสาเหตุสาเหตุของโรคปริทันต์รอบรากเทียมนั้นไม่ต่างจากที่พบในฟันธรรมชาติ คือเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในคราบหินปูนภายในช่องปาก

หากผู้เข้ารับการรักษาดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ภายหลังจากการฝังรากฟันเทียมแล้ว การดูแลรักษาความสะอาด ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และผู้เข้ารับการรักษาควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพช่องปากอย่างเป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อจะได้ตรวจเช็คความแข็งแรงของรากฟันเทียมรวมไปถึงกระดูกขากรรไกร เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้ทันเวลา หากทำได้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ผู้เข้ารับการรักษาก็จะมีสุขภาพช่องปากที่ดีและมีรากฟันเทียมที่คงทน แข็งแรง และสามารถอยู่ได้ถาวรตลอดชีวิต หากสนใจเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม

3
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



4
หมอประจำบ้าน: ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids)

ริดสีดวงทวาร เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำที่มีอยู่ตามธรรมชาติของคนทั่วไปในบริเวณปลายลำไส้ใหญ่ (ไส้ตรง) และทวารหนักเกิดการบวม และโป่งพอง เป็นก้อน เรียกว่า "หัวริดสีดวง" แล้วมีการปริแตกของผนังหลอดเลือดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ ทำให้มีเลือดออกเป็นครั้งคราว


ริดสีดวงทวารมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่

1. ริดสีดวงภายนอก (external hemorrhoid) เกิดขึ้นตรงปากทวารหนัก จากที่หลอดเลือดใต้ผิวหนังเกิดการโป่งพอง ซึ่งมองเห็นจากภายนอกและสามารถคลำได้

2. ริดสีดวงภายใน (internal hemorrhoid) เกิดตรงบริเวณที่อยู่ลึกขึ้นไปในทวารหนัก จากที่หลอดเลือดบริเวณนั้นเกิดการโป่งพอง ซึ่งมักมองไม่เห็นจากภายนอกและคลำไม่ได้ จะตรวจพบเมื่อใช้กล้องส่องตรวจ หรือพบในระยะที่มีหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนัก

ริดสีดวงภายในแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ได้แก่

    ระยะที่ 1 หัวริดสีดวงหลบอยู่ภายใน ไม่ยื่นออกมานอกทวารหนัก อาจมีเพียงอาการเลือดออกสด ๆ ขณะถ่ายอุจจาระ
    ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ และเลื่อนกลับเข้าไปได้เองเมื่อหยุดเบ่งถ่าย หรือหลังถ่ายอุจจาระเสร็จ
    ระยะที่ 3 หัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ และไม่เลื่อนกลับเข้าไปได้เองหลังถ่ายอุจจาระ ต้องใช้มือดันกลับเข้าไป
    ระยะที่ 4 หัวริดสีดวงยื่นย้อยออกมานอกทวารหนักตลอดเวลา ไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ และอาจรู้สึกปวด

ริดสีดวงทวาร อาจพบเป็นเพียงหัวเดียวหรือหลายหัวก็ได้ และอาจเป็นริดสีดวงทวารภายนอกร่วมกับริดสีดวงทวารภายในก็ได้

โรคนี้พบได้บ่อยในคนทั่วไป พบเป็นสาเหตุอันดับแรก ๆ ของอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด และเมื่อยิ่งมีอายุมากขึ้นจะยิ่งพบได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบได้บ่อยในคนอายุมากกว่า 50 ปี เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเริ่มอ่อนแอและมีการยืดตัว

โดยทั่วไปจะไม่ค่อยมีอาการรุนแรงหรืออันตราย แต่อาจเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง น่ารำคาญ หรือทำให้วิตกกังวล โดยมากมักจะมีอาการเวลาท้องผูก หรือท้องเดินบ่อยครั้ง


สาเหตุ

โรคนี้เกิดจากเครือข่ายของหลอดเลือดเฮมอร์รอยด์ (hemorrhoidal plexus) ที่บริเวณผนังของไส้ตรง (rectum) ส่วนล่าง และทวารหนัก (anus) เกิดการบวมหรือโป่งพอง เนื่องจากมีภาวะความดันสูงในหลอดเลือดดำ (ของเครือข่ายหลอดเลือดดังกล่าว) จากเหตุปัจจัยต่าง ๆ อาทิ

    การเบ่งถ่ายอุจจาระหรือนั่งถ่ายอุจจาระนาน ๆ
    อาการท้องผูก หรือท้องเดินเรื้อรัง
    การนั่งนาน ๆ หรือยกของหนัก
    การกินอาหารที่มีกากใยน้อย
    การขาดการออกกำลังกาย
    การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
    น้ำหนักมาก หรือภาวะอ้วน
    ภาวะตั้งครรภ์
    ไอเรื้อรัง

นอกจากนี้ ยังอาจพบร่วมกับโรคในช่องท้อง เช่น ตับแข็ง (ทำให้มีภาวะความดันในหลอดเลือดดำตับสูง ซึ่งส่งผลกระทบมาที่หลอดเลือดดำที่ทวารหนัก) โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (inflammatory bowel disease) ก้อนเนื้องอกในท้อง (เช่น เนื้องอกมดลูก เนื้องอกหรือถุงน้ำรังไข่) ท้องมาน (ภาวะท้องบวมน้ำ) มะเร็งลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมากโต เป็นต้น

บางคนอาจมีประวัติว่ามีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นโรคนี้

บางคนอาจเกิดโรคนี้โดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจนก็ได้


อาการ

ส่วนมากจะมีอาการเลือดออกทางทวารหนัก เป็นเลือดแดงสด เกิดขึ้นขณะเบ่งถ่ายหรือหลังถ่ายอุจจาระ อาจสังเกตมีเลือดเปื้อนกระดาษชำระ หรือเคลือบที่ผิวอุจจาระ หรือมีเลือดไหลออกเป็นหยดลงโถส้วม เลือดที่ออกจะไม่ปะปนกับอุจจาระและไม่มีมูกร่วมด้วย แต่ละครั้งเลือดออกไม่มากและหยุดได้เอง โดยไม่มีอาการเจ็บปวด เมื่อถ่ายครั้งใหม่ก็จะมีเลือดออกได้อีก ส่วนใหญ่มักมีอาการถ่ายเป็นเลือดอยู่ 2-3 วัน แล้วหายไปเอง

สำหรับริดสีดวงทวารภายนอก อาจมีอาการระคายเคืองหรือคันรอบ ๆ ปากทวารหนัก หรืออาจคลำพบติ่งเนื้อนิ่ม ๆ ที่ขอบทวารหนัก ในรายที่มีลิ่มเลือดอุดตันแทรกซ้อนจะมีอาการปวดรุนแรง และคลำได้ก้อนแข็งที่บริเวณทวารหนัก

สำหรับริดสีดวงทวารภายใน ในระยะแรกมักตรวจไม่พบหัวริดสีดวง ต่อเมื่อเป็นระยะที่มีหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนัก จะพบว่ามีก้อนเนื้อนิ่ม ๆ ยื่นออกมานอกขอบทวารหนักขณะถ่ายอุจจาระ ซึ่งมักเลื่อนกลับเข้าไปได้เองเมื่อหยุดเบ่งถ่าย หรือใช้มือดันกลับเข้าไปได้ แต่ถ้ายื่นออกมานอกทวารหนักตลอดเวลา ไม่สามารถเลื่อนกลับเข้าไปได้ อาจทำให้รู้สึกปวด

ถ้ามีเลือดออกมากหรือเรื้อรัง อาจมีอาการอ่อนเพลียและซีดได้


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่แม้ว่าจะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย แต่มักไม่มีภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่ปล่อยให้มีอาการเรื้อรัง อาจมีการเสียเลือดเรื้อรัง เกิดภาวะโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็กได้

นอกจากนี้ ในรายที่เป็นริดสีดวงภายในระยะรุนแรง หัวริดสีดวงอาจยื่นออกมาย้อยที่ปากทวารหนัก ถูกกล้ามเนื้อหูรูดบีบรัด ทำให้ขาดเลือดไปเลี้ยง เรียกว่า "ริดสีดวงชนิดถูกบีบรัด (strangulated hemorrhoid)" มีอาการเกิดก้อนเจ็บที่ขอบทวารหนัก ซึ่งก้อนจะโตขึ้นเร็วใน 24 ชั่วโมงแรก และรู้สึกเจ็บมากในระยะ 5-7 วันแรก มักมีน้ำเมือกและเลือดซึม และถ่ายลำบาก อาการจะค่อยทุเลา หายเป็นปกติประมาณ 2 สัปดาห์ไปแล้ว ผู้ป่วยอาจมีประวัติว่าเคยเป็นริดสีดวงมาก่อนหรือไม่ก็ได้

ส่วนโรคริดสีดวงภายนอก อาจเกิดลิ่มเลือดขึ้นในหัวริดสีดวง เรียกว่า "ริดสีดวงทวารชนิดมีลิ่มเลือดอุดตัน (thrombosed hemorrhoid)" ทำให้ริดสีดวงเกิดการอักเสบ บวม มีอาการปวดรุนแรงขณะนั่ง เดิน และถ่ายอุจจาระ และคลำได้ก้อนแข็งที่บริเวณทวารหนัก ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมากใน 24-48 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นลิ่มเลือดจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมไป อาการจะค่อย ๆ ทุเลา และอาจหายเป็นปกติได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ หลังหายแล้วอาจพบเนื้อเยื่อบริเวณนั้นกลายเป็นติ่งหนัง (skin tag)   

ผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนต้องรีบไปให้แพทย์รักษา


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย รวมทั้งการตรวจทวารหนัก

ในรายที่มีอาการเล็กน้อย อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารภายใน ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในลำไส้ใหญ่

บางรายอาจตรวจพบก้อนหรือติ่งหนัง (skin tag) ที่ขอบทวารหนัก หรือก้อนเนื้อนิ่มที่ยื่นโผล่ออกมาที่ปากทวารหนัก

หากยังวินิจฉัยได้ไม่ชัดเจน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีอาการเรื้อรัง) หรือสงสัยมีความผิดปกติอื่นในลำไส้ใหญ่หรือช่องท้อง หรือมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ใช้กล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ (anoscopy/proctoscopy/sigmoidoscopy/colonoscopy) ตรวจเลือด อุจจาระ ปัสสาวะ การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรืออัลตราซาวนด์ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่มีอาการเล็กน้อย คือมีเลือดออกเล็กน้อยขณะเบ่งถ่ายหรือหลังถ่ายอุจจาระ ไม่มีอาการเจ็บปวด แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตอาการ เวลาถ่ายอุจจาระพยายามไม่เบ่งแรง และไม่นั่งถ่ายนาน ๆ อย่านั่งนาน ๆ และไม่ยกของหนัก

ถ้าจำเป็นอาจให้การรักษาอาการท้องผูกหรือท้องเดินที่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการกำเริบ

สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก แนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวเพื่อให้อุจจาระนุ่มและถ่ายง่าย (ดูหัวข้อ "การดูแลตนเอง" ด้านล่าง)

2. ถ้ามีอาการปวดริดสีดวงทวารเนื่องจากมีการอักเสบ แนะนำให้ผู้ป่วยนั่งแช่ในน้ำอุ่นจัด ๆ (ขนาดร้อนพอทน หรือประมาณ 40 องศาเซลเซียส) วันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที แล้วใช้ผ้านุ่ม ๆ ซับให้แห้ง

ถ้าปวดมากให้ยาแก้ปวด-พาราเซตามอล หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนก) ควรหลีกเลี่ยงยาแก้ปวดที่เข้าสารฝิ่นหรืออนุพันธ์ของฝิ่น เพราะอาจทำให้ท้องผูก นอกจากนี้อาจใช้ยาชาชนิดเจล (ที่มีตัวยา lidocaine) ทาระงับปวด

นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร หรือยาทาที่มีตัวยาสเตียรอยด์ผสมกับยาชา (เช่น ยาที่มีชื่อการค้าว่า "Proctosedyl" "Doproct" "Scheriproct N" ชนิดเหน็บทวาร หรือชนิดขี้ผึ้ง/ครีมสำหรับใช้ทา วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และหลังถ่ายอุจจาระ) เพื่อลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวดและคัน (จะหยุดใช้เมื่ออาการทุเลาแล้ว จะไม่ใช้นานเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้ผิวบาง)

3. ถ้ามีภาวะซีดจากการเสียเลือดเรื้อรัง ให้ยาบำรุงโลหิต

4. ถ้าหัวริดสีดวงหลุดออกมาข้างนอก แพทย์จะใส่ถุงมือใช้ปลายนิ้วชุบสบู่ให้หล่อลื่น แล้วดันหัวกลับเข้าไป

5. ถ้าริดสีดวงภายนอกมีลิ่มเลือดอุดตัน มีอาการปวดรุนแรง แพทย์จะทำการกรีดเอาลิ่มเลือดออกไป ซึ่งจะช่วยให้ทุเลาปวดได้ทันที (จะได้ผลดีภายใน 72 ชั่วโมงหลังเกิดลิ่มเลือด) หลังจากนั้นแนะนำให้ผู้ป่วยแช่น้ำอุ่นจัด ๆ และใช้ยาทาหรือยาเหน็บริดสีดวงทวาร

6. ถ้าให้การรักษาดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ผล มีอาการปวดมาก หรือมีเลือดออกเรื้อรัง หรือมีหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักบ่อยหรือดันกลับเข้าไปไม่ได้ แพทย์อาจทำการรักษาด้วย "หัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด" วิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้

    การใช้ยางรัด (rubber band ligation) รัดรอบ ๆ หัวริดสีดวงภายใน ทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่ได้ หัวริดสีดวงก็จะเหี่ยวแห้งและหลุดออกเองภายใน 1 สัปดาห์ วิธีนี้มีอัตราการหายขาดค่อนข้างสูง แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการปวดถ่วงในทวารหนัก เลือดออก (ไม่มากและหยุดเองได้) หัวริดสีดวงอักเสบ (บวม เจ็บ) และย้อยออกมาได้
    การฉีดสารก่อกระด้าง (sclerotherapy) เข้าที่หัวริดสีดวง ทำให้ริดสีดวงฝ่อไป วิธีนี้ใช้ได้ผลดี เหมาะสำหรับริดสีดวงภายในระยะที่ 1 และ 2 มีความสะดวก ปลอดภัย ไม่มีความเจ็บปวด แต่มีอัตราการหายขาดน้อยกว่าการใช้ยางรัด
    การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ อินฟราเรด หรือความร้อน (laser, infrared or bipolar photocoagulation) ทำให้หัวริดสีดวงแข็งและยุบลง วิธีนี้ใช้สำหรับรักษาริดสีดวงภายในที่มีขนาดเล็กและกลาง มีผลข้างเคียงน้อย แต่มีอัตราการกำเริบใหม่มากกว่าการใช้ยางรัด

7. ถ้าเป็นมาก มีภาวะแทรกซ้อน หรือรักษาด้วยยาและหัตถการต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล แพทย์ก็จะรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งมีให้เลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้

    การผ่าตัดเอาหัวริดสีดวงออก (hemorrhoidectomy) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิม โดยเลาะเอาเนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวารออก วิธีนี้ให้ผลการรักษาดี มีโอกาสในการกลับมากำเริบใหม่น้อย แต่อาจมีผลข้างเคียงคือ ทำให้เกิดภาวะปัสสาวะคั่ง (ถ่ายปัสสาวะไม่ออก) และการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้
    การผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือเย็บติด (stapled hemorrhoidectomy/stapled hemorrhoidopexy) เป็นการใช้เครื่องมือคล้ายเครื่องยิงลวดทำการตัด เย็บ และผูกหัวริดสีดวง ปิดกั้นเลือดที่จะไปเลี้ยงบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวาร ทำให้หัวริดสีดวงเกิดการฝ่อและหลุดไป วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาริดสีดวงทวารภายในเท่านั้น วิธีนี้ทำให้เกิดการเจ็บปวดน้อยกว่า และฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม แต่มีความเสี่ยงต่อการกำเริบใหม่ และภาวะไส้ตรงยื่นย้อย (rectal prolapse) มากกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม และอาจเกิดผลแทรกซ้อน เช่น เลือดออก ปัสสาวะไม่ออก เกิดการติดเชื้อ เป็นต้น

ผลการรักษา ผู้ที่มีอาการเล็กน้อยซึ่งพบได้เป็นส่วนใหญ่ สามารถให้การรักษาตามอาการ ทำให้อาการทุเลาได้ แต่มีโอกาสกลับมากำเริบเป็นครั้งคราวเวลาท้องผูกหรือท้องเดิน

ในรายที่มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด (เช่น การใช้ยางรัด) มีโอกาสกำเริบใหม่ภายใน 5-10 ปี ถึงร้อยละ 30-50 ส่วนในรายที่รักษาด้วยการผ่าตัดมีโอกาสกำเริบใหม่น้อยกว่าร้อยละ 5

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ถ่ายอุจจาระออกเป็นเลือดสด มีอาการคันหรือเจ็บที่ทวารหนัก มีก้อนยื่นออกมาที่ปากทวารหนักตอนถ่ายอุจจาระ หรือคลำพบก้อนที่ปากทวารหนัก ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นริดสีดวงทวาร  ควรดูแลตนเองดังนี้

    รักษาและใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์
    เวลาถ่ายอุจจาระอย่านั่งนาน และไม่เบ่งแรง (ผ่อนแรงเบ่งด้วยการอ้าปากและค่อย ๆ หายใจออกทางปาก)
    ไม่นั่งนาน ๆ และไม่ยกของหนัก
    ถ้ามีอาการท้องผูก ควรปฏิบัติดังนี้

- ดื่มน้ำมาก ๆ วันละประมาณ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร)
- กินอาหารที่มีกากใยสูง (ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืช) ให้มาก ๆ
- งดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ท้องผูกได้
- ออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนัก (ภาวะน้ำหนักเกินมีผลต่อการกำเริบของโรค) และป้องกันท้องผูก
- ถ่ายอุจจาระเป็นเวลาทุกวัน และอย่าอั้นถ่ายเวลามีอาการปวดถ่ายอุจจาระ
- กินสารเพิ่มกากใย และ/หรือยาระบายตามคำแนะนำของแพทย์

    ถ้าปวดริดสีดวงทวาร นั่งแช่น้ำอุ่น ใช้ยาแก้ปวด และใช้ยาเหน็บหรือยาทาริดสีดวงทวารตามคำแนะนำของแพทย์

ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีเลือดออกมาก มีภาวะซีด รู้สึกอ่อนเพลียมาก หรือเวลาลุกนั่งมีอาการหน้ามืดจะเป็นลม
    มีอาการปวดริดสีดวงมาก
    หัวริดสีดวงยื่นออกมาที่ปากทวารหนัก และไม่เลื่อนกลับเข้าไปได้เอง
    น้ำหนักลด ปวดท้องบ่อย ท้องผูกเรื้อรัง ท้องเดินเรื้อรัง หรือมีอาการท้องผูกสลับท้องเดิน
    มีอาการถ่ายเป็นเลือดนานเกิน 1 สัปดาห์ หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย
    มีประวัติกินยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น แอสไพริน โคลพิโดเกรล ) หรือสารกันเลือดเป็นลิ่ม (เช่น วาร์ฟาริน)
    มีความวิตกกังวล
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปใช้ที่บ้าน ถ้าใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

การป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ หรือช่วยป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ ควรระวังอย่าให้ท้องผูก และลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอาการ ดังนี้

    ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดน้ำหนักถ้าอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
    กินอาหารที่มีกากใยมาก (เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืช) กรณีที่กินอาหารประเภทนี้ไม่มากพอ ให้กินสารเพิ่มกากใยเสริม
    ดื่มน้ำมาก ๆ วันละประมาณ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร)
    ออกกำลังกายเป็นประจำ
    ถ่ายอุจจาระเป็นเวลาทุกวัน และอย่าอั้นถ่ายเวลามีอาการปวดถ่ายอุจจาระ
    เวลาถ่ายอุจจาระอย่านั่งนาน (เช่น นั่งอ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์มือถือ) และไม่เบ่งแรง
    หลีกเลี่ยงการนั่งนาน ๆ และไม่ยกของหนัก

ข้อแนะนำ

1. อาการถ่ายเป็นเลือดแม้ว่าส่วนใหญ่จะเกิดจากแผลปริที่ขอบทวารหนักและริดสีดวงทวาร และสามารถให้การดูแลรักษาตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ได้ แต่ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ร้ายแรงได้ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (inflammatory bowel disease) ดังนั้น ถ้ามีอาการผิดแปลกไปจากอาการริดสีดวงที่เคยเป็น หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมกับอาการถ่ายเป็นเลือด (เช่น มีเลือดออกมากหรือเรื้อรัง มีอาการอ่อนเพลีย ท้องเดินเรื้อรัง หรือน้ำหนักลด) หรือพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้ชัดเจน

2. ผู้ที่มีอาการถ่ายเป็นเลือดจากริดสีดวงทวาร ซึ่งมีอาการเล็กน้อย และมีอาการเป็นครั้งคราว อาจคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก และอาจมีความอายที่จะไปพบแพทย์ จะลองรักษาตนเอง หรือปล่อยปละละเลย จะไปพบแพทย์ต่อเมื่อเกิดภาวะซีดจากการเสียเลือดเรื้อรัง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา หรือพบว่าเป็นโรคร้ายแรงอื่น ๆ ซึ่งมักมีความยุ่งยากในการรักษา ดังนั้นควรแนะนำให้คนทั่วไปมีความตระหนักรู้ในเรื่องอาการถ่ายเป็นเลือด และการดูแลรักษาที่ถูกต้อง

3. ผู้ที่มีประวัติกินยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น แอสไพริน โคลพิโดเกรล) หรือสารกันเลือดเป็นลิ่ม (เช่น วาร์ฟาริน) ซึ่งใช้รักษาและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด หากมีอาการถ่ายเป็นเลือด อาจมีเลือดออกรุนแรงได้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อปรับยาให้เหมาะสม

5
ขายรถป้ายแดง Mitsubishi All New Triton Double Cab Prime รถทดลองขับ ไมล์น้อย

มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Double Cab 2.4 PRIME 4WD ปี 2023
MITSUBISHI TRITON DOUBLE 4WD PRIME ตัวถังดีไซน์ใหม่!เมกาเฟรม (Mega Frame) ใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เครื่องยนต์ใหม่ ไฮเปอร์เพาเวอร์ กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ (184 PS) แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร เทอร์โบแปรผัน VG Turbo ช่วงล่างใหม่ พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport ระบบ Super Select 4WD-II สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ และระบบ Easy Select 4WD สำหรับรุ่น ซิงเกิ้ล แค็บ ตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง

เลือก 4 รูปแบบ 2H, 4H, 4HLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4LLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ) พร้อมโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด Normal และแบบ Eco, Gravel, Snow, Mud, Sand และ Rock พร้อม Active Yaw Control: AYC ความปลอดภัยขั้นสุด Diamond Sense

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 15 ก.ย. - 30 ธ.ค. 2567
ส่วนลด 150,000 สามารถนำมาเป็นเงินดาวน์เพื่อทำโปรฟรีดาวน์ได้

ราคาพิเศษ 798,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์          Mitsubishi
   รุ่น               มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Double Cab 2.4 PRIME 4WD ปี 2023
   ประเภทรถ      รถกระบะ 4 ประตู
   ปีที่เปิดตัว      2023


6
motor show 2025: มิตซูบิชินำ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี, เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี และเทคโนโลยี

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและส่งเสริมความยั่งยืนด้านยานยนต์ ณ งานแสดงพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืน (Sustainable Energy Technology Asia 2024: SETA 2024) มุ่งนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันที่สำคัญต่อการสร้างสรรค์พลังงานอัจฉริยะอันนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอนาคต
 
มร. โนโบรุ สึจิ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานคณะกรรมการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มร. ชิน คุโบะ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร ถ่ายภาพร่วมกับ ดร. ณอคุณ สิทธิพงศ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, ฯพณฯ โอตากะ มาซาโตะ (กลาง) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ประจำราชอาณาจักรไทย, ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล (ที่ 5 จากขวา) ประธานการจัดงาน SETA 2024, มร. ซุรุดะ มาซาโนริ (ที่ 4 จากขวา) Deputy Commissioner for International Affairs, Agency for Natural Resources and Energy (ANRE) กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (METI), ดร. ชนะ ภูมี (ที่ 3 จากขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี. ศ.ทัตสึยะ เทราซาวา (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันเศรษฐกิจพลังงานแห่งประเทศญี่ปุ่น (IEEJ) และ ดร.นาโอมิ ฮิโรเสะ (ขวาสุด) รองประธานองค์การพลังงานโลก (WEC)

ด้วยแนวคิดในการสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงได้ผนวกเทคโนโลยีด้านพลังงานเข้ากับเทคโนโลยีการขับเคลื่อน สะท้อนออกมาเป็น ที่สุดแห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างอย่างเหนือระดับ ทั้งในด้านความสะดวกสบาย สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านยนตรกรรมรุ่นล่าสุด มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นแรกในไทย ที่มอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย Mitsubishi e:MOTION ที่ผสานระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ซึ่งพัฒนามาจากระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันทรงพลังและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ทั้งยังมีโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง
 
ในงานนี้ มร. คาซูอะคิ อิวาโมโตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ยังได้แสดงปาฐกถาในหัวข้อ แนวคิดริเริ่มของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Mitsubishi Motors’ Initiative Toward Carbon Neutrality Utilizing BEV and PHEV) ณ เวที Mobility Forum ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานยานยนต์อนาคตของเอเชีย (Sustainable Mobility Asia: SMA 2024)
 

นอกจากนี้ ภายในงาน SETA 2024 และ Sustain Asia Week 2024 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้รับ รางวัลยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Green Mobility Award) โดยมี มร. ชิน คุโบะ (ขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รับมอบรางวัลจาก ดร. สราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน

7
โรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์และผลกระทบต่อลูกน้อย   

มะเร็งในระหว่างการตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของคุณแม่ได้ไม่น้อย เพราะเดิมทีโรคมะเร็งเป็นโรคที่ค่อนข้างซับซ้อนและรักษายาก บวกกับความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ แต่โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์อาจรักษาได้และไม่ได้ร้ายแรงเสมอไป

โรคมะเร็งที่เกิดในระหว่างตั้งครรภ์นั้นพบได้น้อย จากค่าเฉลี่ยพบว่ามีอัตราการเกิดราว 1 ใน 1,000 คน บางชนิดอาจรักษาได้ระหว่างตั้งครรภ์โดยไม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ ซึ่งแพทย์จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคุณแม่และทารกมาเป็นอันดับแรก หากคุณแม่รู้สึกไม่สบายหรือมีอาการผิดปกติระหว่างการตั้งครรภ์ก็อย่าเพิ่งกังวลไป ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างเหมาะสม ในเบื้องต้น บทความนี้จะพาไปรู้จักโรคมะเร็งที่เกิดในระหว่างการตั้งครรภ์ให้มากขึ้น


โรคมะเร็งส่งผลต่อทารกในครรภ์ไหม ?

ปกติแล้วหากตรวจพบมะเร็งชนิดที่ไม่รุนแรง ไม่ลุกลาม หรือไม่ได้อยู่ใกล้กับตำแหน่งสำคัญ โรคมะเร็งอาจไม่ส่งผลหรือเป็นอันตรายต่อตัวอ่อนในครรภ์โดยตรงในทันที แต่ถ้าคุณแม่เป็นโรคมะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรง (Malignant Melanoma) และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวก็อาจมีความเสี่ยงที่เซลล์มะเร็งจะแพร่ไปยังทารกในครรภ์ได้เช่นกัน รวมทั้งขั้นตอนการรักษาบางอย่างก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้

ในกรณีของคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกระหว่างเป็นมะเร็งยังสามารถให้นมลูกต่อไปได้อย่างปลอดภัย เพราะเซลล์มะเร็งมักไม่ส่งผ่านทางน้ำนม ทารกจึงสามารถกินนมแม่ได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าคุณแม่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดหรือยาคีโม ไม่ควรให้ทารกดื่มนมแม่เพราะอาจเป็นอันตรายได้


ชนิดของมะเร็งที่พบระหว่างตั้งครรภ์

โรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์อาจพบได้หลายชนิด โดยชนิดที่พบบ่อยที่สุด คือ โรคมะเร็งเต้านม (Breast Cancer) นอกจากมะเร็งเต้านมแล้วก็อาจพบโรคมะเร็งชนิดอื่น เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin's Lymphoma) และชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin's Lymphoma) มะเร็งรังไข่ มะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรง มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมไทรอยด์ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ มะเร็งสมอง มะเร็งกระดูก และมะเร็งปอดก็อาจพบได้ระหว่างตั้งครรภ์เช่นเดียวกัน แต่โอกาสพบน้อยกว่ามะเร็งชนิดอื่น
มะเร็งตอนตั้งครรภ์ รักษาได้หรือไม่ ปลอดภัยหรือเปล่า?

การรักษาโรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งชนิดของมะเร็ง ความรุนแรงและระยะของมะเร็ง อายุครรภ์ และความยินยอมในการรักษาของคุณแม่ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ก่อนเลือกวิธีรักษาโรคมะเร็ง โดยมีตั้งแต่การใช้ยา การฉายแสง การทำเคมีบำบัด และการผ่าตัด

การรักษามะเร็งในระหว่างตั้งครรภ์ แพทย์จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคุณแม่และเด็กมาเป็นอันดับแรก หากโรคไม่รุนแรงมากหรืออายุครรภ์มากใกล้กำหนดคลอด แพทย์อาจรอให้คุณแม่คลอดเด็กก่อนแล้วค่อยเริ่มการรักษา บางกรณีอาจจำเป็นต้องเร่งให้ทารกคลอดก่อนกำหนดเพื่อเริ่มการรักษาให้เร็วที่สุด เช่น คุณแม่เป็นมะเร็งเต้านมชนิดไม่รุนแรงและเซลล์มะเร็งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถผ่าตัดได้โดยไม่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ แพทย์อาจแนะนำวิธีการผ่าตัดเต้านมเพื่อป้องกันการแพร่ของเซลล์มะเร็ง แล้วค่อยฉายแสงอีกครั้งหลังจากคลอดเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่

ถ้าผลการรักษาจากการผ่าตัดและการรักษาโรคมะเร็งในเบื้องต้นออกมาไม่ดี แพทย์อาจจำเป็นต้องเพิ่มระดับและความเข้มข้นในการรักษา เช่น การฉายแสงและการให้ยาเคมีบำบัด แต่ทั้งสองวิธีนี้อาจส่งผลต่อทารกได้ โดยเฉพาะการใช้ยาเคมีบำบัดที่อาจทำให้อวัยวะทารกไม่สมบูรณ์ เกิดภาวะสติปัญญาบกพร่อง พัฒนาการช้า และทำให้แท้งได้ ส่วนการผ่าตัดก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้เช่นกัน

ในกรณีที่อาการรุนแรงและแพทย์พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องเริ่มการรักษาทันที เพราะเซลล์มะเร็งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของแม่ แพทย์จะพูดคุยเกี่ยวกับความเสี่ยงของการรักษา ความรุนแรงของโรค รวมถึงการยุติการตั้งครรภ์เพื่อให้คุณแม่เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้การเกิดโรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์ไม่เพียงส่งผลต่อร่างกายคุณแม่เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วย แพทย์อาจแนะนำให้พูดคุยกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับมือกับปัญหาสุขภาพดังกล่าว โดยเฉพาะในรายที่ต้องยุติการตั้งครรภ์
สงสัยว่าเป็นมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์ ควรทำอย่างไร?

อย่างที่กล่าวมาว่าโรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์พบได้น้อย อีกทั้งอาการบางอย่างของโรคมะเร็งบางชนิดและอาการคนท้องอาจดูคล้ายกัน เช่น ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และเต้านมมีลักษณะเปลี่ยนไป คุณแม่จึงอาจสับสนหรือเป็นกังวลได้ ดังนั้นหากไม่สบายควรไปปรึกษาแพทย์

หากคุณแม่ตรวจพบโรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์และเป็นมะเร็งชนิดที่ไม่รุนแรง คุณแม่ควรเข้ารับการรักษาและทำตามคำแนะนำในการดูแลตนเองตามที่แพทย์แนะนำ โดยพยายามทำจิตใจให้สงบ เพราะภาวะอารมณ์ของคุณแม่ส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อยได้

ในปัจจุบัน แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์ อีกทั้งการตั้งครรภ์และการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจากการตั้งครรภ์ไม่ได้ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งโดยตรง ด้วยเหตุนี้โรคมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์จึงอาจเกิดจากสาเหตุและปัจจัยอื่น เช่น พันธุกรรม อาหารการกิน การใช้ชีวิต ดังนั้นควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอเพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง สุดท้ายนี้หากพบความผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาอย่างถูกต้อง

8
แท็บเล็ต 2024: แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (2TB) Wi-Fi
79,900 บาท 


แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (2TB) Wi-Fi
รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น          แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (2TB) Wi-Fi
   ราคากลาง        79,900 บาท
   จำนวนซิม          -
   สี              Silver, Black
   ความถี่-เครือข่าย
   ขนาด-น้ำหนัก          ยาว 177.5 x กว้าง 249.7 x หนา 5.3 มม., น้ำหนัก 444 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน-ROM   2000 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด   -
   แบตเตอรี่               N/A

ชนิดจอ
   ชนิดจอ           Ultra XDR Retina OLED
   ขนาด-ความละเอียด 11 นิ้ว, 1,668 x 2,420 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด          กล้องหลัง (12 Mpx), กล้องหน้า (12 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                  -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)         Apple M4
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)            16 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก            -
   ระบบรับส่งข้อความ              -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต            WiFi

9
ผู้ดูแลต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง ในการให้อาหารสายยาง

การให้อาหารทางสายยาง เป็นการรักษาทางการแพทย์วิธีหนึ่ง เป็นการให้อาหารแก่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ หรือผู้ป่วยที่หมดสติ ซึ่งถือว่าการให้อาหารทางสายยางจำเป็นจะต้องมีผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการให้อาหารทางสายยาง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย ดังนั้นการให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยจะต้องมีการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน ตังแต่ขั้นตอนการเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์การให้อาหารสายยางต่าง ๆ และอาหารที่จะนำไปให้ผู้ป่วยจะต้องมีความสะอาดและปลอดภัย เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้รัยสารอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะ เพราะการที่ร่างกายของผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ไม่สะอาด อาจจะทำให้ร่างกายผู้ป่วยเกิดอาการท้องเสียได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้อาการป่วยของผู้ป่วยแย่ลงไปอีก

ดังนั้น ในเรื่องของความสะอาดถือเป็นสิ่งที่คำนึงถึงให้มากทีสุด ทางเรามีขั้นตอนการผลิตอาหารปั่นผสม สำหรับผู้ป่วยที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยและมีการควบคุมขั้นตอนการผลิตทุกขั้นตอนโดยนักโภชนาการที่มีความเชี่ยวชาญ มีการออกแบบสูตรอาหารเพื่อผู้ป่วยโดยเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ถูกกับโรค เพราะผู้ป่วยในแต่ละโรคมีการต้องการสารอาหารที่ไม่เหมือนกัน ทำให้สูตรอาหารปั่นผสมจึงมีความแตกต่างกัน ทางอาหารปั่นผสม เรายังมีบริการผลิตอาหารปั่นผสม ตามใบสั่งแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้มั่นใจในเรื่องของอาหารที่จะนำไปให้ผู้ป่วย

สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมสำหรับการให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วย ว่าผู้ดูแลจะต้องมีวิธีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง เพื่อให้การให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยอย่างถูกต้อง ถูกวิธีและมีความปลอดภัยมากที่สุด เพราะการให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วย มักจะเกิดความเสี่ยงที่จะให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ผู้ดูแลต้องทำความเข้าใจให้ดีและถูกต้องว่าวิธีการให้อาหารทางสายยางทำอย่างไร และต้องทราบถึงวัตถุประสงค์ ความจำเป็น ที่จะต้องให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วย หรือหากมีการนำผู้ป่วยไปพักฟื้น ดูแลที่บ้านจะต้องทราบถึงขั้นตอนการเตรียมอาหารปั่นผสม ว่าควรที่จะทำอย่างไร เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสมกับร่างกาย

แต่อย่างไรก็ตามการทำอาหารปั่นผสมหรือสูตรอาหารต่างๆ ก็ต้องทำการปรึกษานักโภชนาการอย่างละเอียดว่า ผู้ป่วยควรที่จะรับสารอาหารประเภทใด ควรเน้นสารอาหารประเภทใด และที่สำคัญต้องทราบให้แน่ชัดว่า ผู้ป่วยมีอาการแพ้อาหารใดบ้าง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ปลอดภัยและเพื่อให้ร่างกายป้องการเกิดภาวะแทรกซ้อน เพราะการแพ้อาหารอาจจะทำให้เสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ดูแลหรือญาติจะต้องฝึกทำอาหารปั่นผสม และวิธีการให้อาหารปั่นผสมจนมีความเชี่ยวชาญและมั่นใจ หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาในการให้อาหารทางสายยาง ไม่ควรแก้ไขปัญหาเอง เช่น หากสายยางให้อาหารหลุด ควรพาไปให้แพทย์ใส่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ด้วย


สำหรับระยะเวลาที่ต้องให้อาหารทางสายยาง ขึ้นกับผู้ป่วยสามารถกลืนอาหารเองได้หรือไม่ ความรู้สึกตัวดีขึ้น ไม่สำลักอาหาร เพราะผู้ป่วยบางรายอาจจะยังไม่ชินกับการให้อาหารทางสายยาง ซึ่งอาจจะเกิดการสำลักอาหารได้ง่าย รวมไปถึง อาจจะให้อาหารเข้าไปติดในปอดได้ ก็จะทำให้ปอดเกิดการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นนอกจากการให้อาหารทางสายยางที่ถูกต้องแล้ว ผู้ดูแลควรหมั่นสังเกตอาการของผู้ป่วยว่า มีอาการผิดปกติหรือไม่ และการเริ่มต้นของการให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยจะให้อาหารเหลวทางสายยางผ่านทางรูจมูกก่อนเสมอ แต่ก็ต้องดูว่าผู้ป่วยมีปัญหาในเรื่องของลำคอหรือไม่ เพราะถ้าหากมีปัญหาในเรื่องของลำคอ เช่น ทำการผ่าตัดบริการลำคอ อาจจะใช้วิธีการให้อาหารทางสายยางผ่านทางหน้าท้องแทนและถ้าผู้ป่วยไม่สามารถกลืนอาหารได้เลยเป็นเวลานาน ก็ต้องใส่สายยางเจาะหน้าท้องเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรง เพื่อที่จะได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


อย่างไรก็ตามทางเรามีบริการอาหารทางสายยาง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่มีคุณภาพ โดยมีการผลิตจากนักโภชนาการที่มีความเชี่ยวชาญ และสามารถผลิตอาหารตามคำสั่งแพทย์ได้ ทางเราผลิตอาหารจากห้องปลอดเชื้อของทางโรงพยาบาล จึงทำให้อาหารมีความสะอาด ปลอดภัย และเป็นที่ไว้วางใจว่า อาหารของเราจะถูกต้องตามหลักของทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ปลอดภัย โดยอาหารปั่นผสมมีการเลือกสรรวัตถุดิบที่มีความสด ใหม่ มีคุณภาพ ปราศจากสารเคมี เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆในผู้ป่วยด้วย อาหารปั่นผสมสามารถหาซื้อได้ทีโรงพยาบาลธนบุรี 2 และโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสิ่งดีๆ ให้อาหารปั่นผสมคอยดูแลสุขภาพของผู้ป่วย เพื่อที่จะได้หายจากอาการป่วยอย่างรวดเร็ว

10
จัดฟันเด็ก EF line สามารถช่วยแก้ปัญหาหายใจทางปากในเด็กได้หรือไม่

เด็กหลายคนอาจจะมีปัญหาอาการนอนกรน แม้จะพบได้ไม่บ่อย และยังเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายคนมองข้าม เพราะคิดว่าไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ความจริงแล้วเป็นปัญหาที่อันตรายต่อสุขภาพของเด็กถึงขั้นเสียชีวิตได้ ภาวะนอนกรนจะพบในเด็กที่มีอายุระหว่าง 2 – 6 ปี เนื่องจากเด็กวัยนี้จะมีต่อมทอนซิล และต่อมอะดีนอยด์ ที่ทำให้เกิดการอุดกั้นของระบบทางเดินหายใจจนเกิดเสียงกรนที่เป็นภาวะอันตราย

ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะเกิดจากการผิดปกติของกล้ามเนื้อของใบหน้า ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็กหรือที่เรียกว่า EF Line ซึ่งเครื่องมือ EF line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูก เนื่องจากกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องตามช่วงอายุ ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต

ดังนั้น เครื่องมือ EF Line ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภาวะการหายใจทางปากของเด็กได้ เพราะการหายใจทางปากเป็นวิธีการหายใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะการหายใจผ่านทางปากแทนจมูกนั้น จะไปลดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด อีกทั้งมีความดันโลหิตสูงและอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจได้ เพราะฉะนั้น การที่เด็กหายใจทางปากในขณะที่นอนหลับอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยเนื่องจากการหายใจอาจจะส่งผลต่อพัฒนาการของโครงสร้างช่องปากและใบหน้า ซึ่งอาจจะพบความผิดปกติได้ นอกจากนี้ เมื่อหายใจทางปากไปนานๆ อาจก่อให้เกิดความผิดปกติของฟันและใบหน้า ยกตัวอย่างเช่น โครงหน้าเบี้ยว ฟันซ้อนเก หรือเหงือกร่นได้พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรจะสังเกตอาการผิดปกติของลูกน้อยและถ้าหากพบสัญญาณผิดปกติควรเข้าพบทันแพทย์จัดฟันเพื่อรักษาด้วยการจัดฟันด้วยโปรแกรม EF Line

 สำหรับวันนี้ทางคลินิกจะมาพูดถึงเครื่องมือ EF Line ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการหายใจทางปากในเด็กได้ สำหรับการหายใจทางปากนั้น  มักพบเมื่อมีการรบกวนระบบทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ ต่อมทอลซินอักเสบ มักพบว่าผู้ที่มีอาการปากแห้งเสมอๆ นอนกรน ผลเสียที่เกิดขึ้นคือ ความสูงของใบหน้าด้านล่างมีค่ามากกว่าปกติ การสบฟันหน้าเปิด ขากรรไกรบนแคบกว่าปกติ การแก้ไขต้องพิจารณาสาเหตุที่มีความจำเป็นต้องหายใจทางปากอยู่เพราะความเคยชิน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อใส่เครื่องมือแก้ไข ทั้งนี้ เด็กที่ปัญหาในเรื่องของการกลืนที่ผิดปกติ ก็สามารถใช้เครื่องมือ EF Line ในการรักษาได้เช่นเดียวกัน

เพราะ การกลืนที่ผิดปกติและตำแหน่งของลิ้นที่ผิดปกติ ในขณะกลืนอาจจะทำให้ยื่นลิ้นออกมาอยู่ระหว่างปลายฟันหน้าบนและล่าง ต้องพิจารณาจากขนาดของลิ้น โดยลิ้นอาจมีขนาดใหญ่ผิดปกติ เนื่องจากโรคทางระบบและตำแหน่งของลิ้นในขณะพักตำแหน่งของลิ้นที่ปกติอาจเป็นผลจากกระบวนการปรับตัว มักพบในคนไข้ภูมิแพ้ มีการอุดตันของช่องจมูก ขากรรไกรบนแคบมาก ความสูงของใบหน้ามากผิดปกติควรมาพบทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข ฟันหน้าห่าง การสบฟันหลังคร่อม

 การพูดออกเสียงไม่ชัด และเกิดการพัฒนาใบหน้าแนวดิ่งมากกว่าปกติ ซึ่งทั้งสองปัญหานี้ก็มีสาเหตุมาจาก ความผิดปกติของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก EF Line ซึ่ง EF line สามารถใช้ได้ในเด็กที่มีอายุ 4-15  ปี โดยเครื่องมือ EF Line สามารถแก้ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยว กระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า  ถ้าหากพบว่า บุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของโครงสร้างใบหน้า หรือกล้ามเนื้อใบหน้าที่มีความผิดปกติ ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการแก้ไข เพื่อที่จะได้มีรูปหน้าที่สวยงาม มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพราะการที่เรามีฟันที่เรียงตัวสวยงาม จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของการดูแลสุขภาพฟันที่ง่ายมากขึ้น ทำให้เราทำความสะอาดฟันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 ทั้งนี้ หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หรือมีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติดังกล่าว สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และช่วยวิเคราะห์ใบหน้าและหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เพื่อให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

11
ดอกบัวอบแห้ง: ไอเดีย จัดช่อดอกไม้แห้ง แบบง่ายๆ แต่สวยทนสวยนาน

การจัดช่อดอกไม้มักจะเป็นวิธีแรกๆ ที่นิยมนำมาใช้ในการจัดการดอกไม้ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่กัน ซึ่งการ จัดช่อดอกไม้แห้ง จะมีวิธีการที่เหมือนกับการจัดช่อดอกไม้แบบทั่วไป แต่แตกต่างกันเล็กน้อยที่เทคนิคและการเลือกใช้พรรณไม้ที่มีความสวยงามคงทนและคงรูปได้แม้ดอกแห้ง เพื่อทำให้สามารถเก็บรักษาไว้ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

วันนี้จึงมีไอเดียและเทคนิคการ จัดช่อดอกไม้แห้ง แบบง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ มาฝากกันถึง 3 แบบ 3 สไตล์เลยค่ะ

จัดช่อดอกไม้แห้ง

    ดอกยิปโซ (Gypso) – จริงใจบริสุทธิ์และอ่อนหวาน
    ดอกแคสเปีย (Caspia) – ความรักที่ซื่อสัตย์และมั่นคง
    ดอกสแตติส (Statice) – ความรู้สึกดีๆ ที่คงอยู่ตลอดไป
    ดอกสุ่ย – ความมั่นคงต่อความรัก

ดอกไม้แห้ง

    ไฮเดรนเยีย (Hydrangea) – ขอบคุณที่เข้าใจกัน
    ยูคาลิปตัสใบกลม (Silver dollar)
    กระดุมทอง (Golden Ball Flower)

 ช่อดอกไม้สุดคลาสสิค

1.เริ่มจัดช่อโดยเลือกดอกไม้ชนิดหลักที่ชื่นชอบไว้ตรงกลาง แล้วเลือกดอกไม้ชนิดอื่นๆ อีก 3 – 4 ชนิด ที่มีขนาดและสีสันต่างกันมาเป็นองค์ประกอบ แล้วเรียงลำดับความสูง-ต่ำของดอกไม้แต่ละชนิดให้ลดหลั่นกันไป เพื่อช่วยเสริมให้ช่อดอกไม้ของเราสวยงามมากยิ่งขึ้น

2.เมื่อได้องค์ประกอบของดอกไม้ตามต้องการแล้ว ให้พันช่อดอกไม้ให้แน่นด้วยสก๊อตเทปใสบริเวณโคนช่อ แล้วตัดปลายกิ่งก้านที่ยื่นยาวออกมาให้ได้ขนาดความยาวตามต้องการ
ดอกไม้แห้ง

3.ซ้อนกระดาษสาที่เตรียมไว้ให้เกิดมุม แล้ววางช่อดอกไม้ลงไปตรงกลาง จากนั้นพับกระดาษห่อทางซ้ายและขวา พับมุม จัดทรงของกระดาษให้เรียบร้อย แล้วใช้สก็อตเทปใสพันตรงก้านยึดไว้ให้แน่น

Tips กระดาษที่นิยมนำมาใช้สำหรับการจัดช่อดอกไม้ มักจะมีลักษณะค่อนข้างบางอ่อนนุ่ม แต่ยืดหยุ่นสูง อย่าง กระดาษสา กระดาษแก้ว กระดาษไข กระดาษคราฟต์
จัดช่อดอกไม้แห้ง

4.อาจใช้กระดาษสีอีกแผ่นมาห่อทับให้เกิดมิติมากขึ้น หรือ ผูกริบบิ้นน่ารักติดไว้ให้สวยงาม เพียงเท่านี้ก็จะได้ช่อดอกไม้ไว้มอบเป็นของขวัญแล้วค่ะ

กรอบรูปดอกไม้แห้งสุดอาร์ท

1.เริ่มจากตัดกิ่งยูคาลิปตัสใบกลมหรือกิ่งอื่นออกมาให้ได้ความยาวประมาณ ¾ ของความยาวกรอบรูปแต่ละด้าน ริดใบด้านล่างออกเล็กน้อย แล้วนำไปติดไว้ตรงมุมด้วยปืนกาว จากนั้นให้จัดวางดอกไม้ประธานไว้ตรงกึ่งกลางของกลุ่มดอกไม้ เพื่อเป็นโครงกำหนดขนาดและทิศทางของดอกไม้อื่นๆ

2.เลือกกลีบดอกไม้หรือใบไม้อื่นๆ มาจัดองค์ประกอบให้ได้สัดส่วน แล้วแปะกาวติดลงไปบนกรอบรูป จากนั้นก็สามารถนำไปตกแต่งห้องหรือโต๊ะทำงาน เพื่อเสริมความน่ารักกันได้เลย

Tips ลองเลือกใช้พรรณไม้หรือกรอบรูปในรูปแบบอื่น อย่าง กรอบรูปสีไม้ หรือ สีดำ จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและรูปแบบของชิ้นงานที่แตกต่างกันได้

โหลดอกไม้แห้งแบบเรียบหรู

1.ตัดโอเอซิสเป็นฐานสำหรับการจัดช่อดอกไม้ โดยให้มีขนาดเล็กกว่าฝาขวดโหลและสูง ประมาณ ¼ ของขวดโหล แล้วติดลงไปที่บริเวณกึ่งกลางของฝาด้วยปืนกาว

Tips สำหรับการจัดดอกไม้แห้ง สามารถใช้โอเอซิสแบบแห้งได้เลยค่ะ

2.ตัดกิ่งดอกไม้แต่ละกิ่งให้มีความยาวมากกว่าความสูงของโอเอซิสเล็กน้อยแต่ไม่สูงกว่าโหลแก้ว มาปักลงในโอเอซิสและจัดองค์ประกอบให้สวยงาม แบบ 360 องศา โดยอาจเลือกใช้ดอกตูมและดอกที่บานสลับกันไป หรือ สลับสีดอกไม้ให้ดูน่ารัก เติมให้แน่นเป็นช่อจนเต็มขวดโหล

3.สุดท้ายให้เก็บรายละเอียดของช่อดอกไม้ให้สวยงาม แล้วติดริบบิ้นลงไปที่ฐานของโอเอซิสและติดกาวที่ปากขวดโหล ก่อนจะคว่ำครอบลงไป เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ

12
งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์ กระบะไฟฟ้า RIDDARA ในเครือ GEELY เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย

RIDDARA แบรนด์รถกระบะพลังงานไฟฟ้าในเครือ GEELY Holding Group เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตุลาคมนี้ ชูจุดเด่นของการเป็นรถกระบะที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อระหว่างผู้คน ยานพาหนะ และการใช้ชีวิต ที่พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานรถกระบะรูปแบบใหม่และสร้างไลฟ์ที่แตกต่าง เจาะกลุ่มผู้ที่รักการเดินทางและชื่นชอบการทำกิจกรรม Outdoor รวมทั้งมองหาความล้ำสมัยของนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
 
RIDDARA รถกระบะไฟฟ้ายอดขายอันดับหนึ่งในจีน
RIDDARA  หรือในประเทศจีนคือแบรนด์ RADAR เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2022  โดยเป็นแบรนด์ในเครือ GEELY Holding Group ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจและยอมรับในระดับสากลโดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของโลก Fortune Global 500 ติดต่อกันมานานกว่า 12 ปี   โดยปัจจุบัน GEELY Holding Group บริหารแบรนด์รถยนต์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์ครอบคลุมหลายเซกเมนท์ อาทิ ZEEKR, LYNK&CO, VOLVO, POLESTAR รวมไปถึง LOTUS   

ในปี 2023 ที่ผ่านมา RIDDARA ครองตำแหน่ง China's NO.1 EV-pickup รถกระบะไฟฟ้ายอดขายอันดับหนึ่งในประเทศจีนด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกลุ่มรถกระบะไฟฟ้าในจีนมากกว่า 61.5% โดยปัจจุบัน RIDDARA มีรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ทำตลาดรวม 2 รุ่นได้แก่ RIDDARA RD6 และ RIDDARA HOROIZON และมีแผนเปิดตัวรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมแผนการขยายธุรกิจในดับสากลที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก

RIDDARA ตั้งเป้าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางตลาดรถกระบะพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน
ในประเทศไทย RIDDARA จะดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท ริดดารา ออโต้โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด (RIDDARA AUTOMOBILE  (THAILAND) COMPANY LIMITED) ทั้งนี้ RIDDARA ตระหนักดีว่าประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์ภูมิภาคอาเซียนที่มีศักยภาพสูง โดย RIDDARA พร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าคนไทยเป็นหลัก รวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในทุกภาคส่วนเพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า และสร้างการเติบโตให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางตลาดรถกระบะพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

RIDDARA นิยามใหม่ของรถกระบะ ตอบโจทย์คนรักการเดินทางและชื่นชอบการทำกิจกรรม Outdoor
RIDDARA มีแผนเปิดตัวรถกระบะพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของบริษัทฯ ในประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Multiplex Attached Platform (M.A.P) ซึ่งเป็นเพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับกระบะพลังงานไฟฟ้าโดยอาศัยพื้นฐานของแพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) อันล้ำสมัยของ GEELY จึงทำให้รถกระบะพลังงานไฟฟ้าจาก RIDDARA มีความโดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบ สมรรถนะและความอัจฉริยะในแบบฉบับของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดใหญ่และมีปลอดภัยสูง RIDDARA ยังมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย และติดตั้งระบบระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ ADAS ที่ครบครัน  พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับทั้งการเดินทาง การบรรทุกและการทำกิจกรรมแบบ Outdoor  ยิ่งไปกว่านั้นยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถยนต์กระบะสันดาปทั่วไป
 
การแนะนำรถกระบะพลังงานไฟฟ้า RIDDARA สู่ตลาดประเทศไทย จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ที่กำลังมองหายานยนต์พลังงานไฟฟ้าและชื่นชอบความอเนกประสงค์ของรถกระบะที่สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างได้อย่างลงตัว  โดยนอกเหนือจากการแนะนำรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโลยีที่ทันสมัยแล้ว  RIDDARA ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายโดยกำลังเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของนวัตกรรมจาก RIDDARA และเข้าถึงการบริการของบริษัทฯ ได้อย่างสะดวกสบายที่สุด
 

13
all new mitsubishi triton 2024:  New Mitsubishi Triton พร้อมจำหน่ายในประเทศไทย

New Mitsubishi Triton ได้รับการพัฒนาขึ้นให้ แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค เพื่อยกระดับในทุกมิติ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Dynamic Shield ผสานเข้ากับเส้นสายอันดุดันของฝากระโปรงหน้า พร้อมไฟหน้าใหม่ติดตั้งอยู่บนตำแหน่งที่สูงขึ้น ตัวถังออกแบบใหม่ลงตัวด้วยส่วนโค้งมนตัดกับเส้นสายอันโฉบเฉี่ยวพร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่เน้นความแข็งแกร่ง รวมถึงชุดไฟท้ายและกันชนหลังใหม่ภายในทันสมัยสะท้อน ถึงความแกร่งได้เป็นอย่างดีตั้งแต่แผงคอนโซลไปจนถึงช่องแอร์ ที่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความประณีตและคุณภาพของวัสดุบุนุ่มและการตัดเย็บที่มีคุณภาพ

สำหรับเมืองไทยแรงสุดด้วย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน Mitsubishi 4N15 Mivec Clean Diesel 2.4 ลิตร 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที พร้อม เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ 6 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสองล้อ และ สี่ล้อแบบ Easy Select 4WD และ Super Select 4WD II แนะนำระบบ Off Road Mode เข้ามา แบ่งเป็นสี่โหมดสำคัญ ได้ แก่ Gravel , Mud/ Snow , Sand และ Rockกับ ระบบเฟืองท้ายแบบ Diff-lock


ระบบความปลอดภัยเหนือกว่าด้วย ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว Forward Collision Mitigation System (FCM) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว Ultrasonic Misacceleration Mitigation System (UMS) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน Blind Spot Warning With Lane Change Assist (BSW with LCA) ระบบปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)กล้องมองภาพรอบคัน ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด Raer Cross Traffic Alert (RTCA)พร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันล้อหมุนฟรี ASTC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist System (HSA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control System (HDC)

New Mitsubishi Triton จำหน่ายในเมืองไทยตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน โดยผลิตที่ศูนย์การผลิตแหลมฉบังของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากนั้นจะทยอยเปิดตัวสู่ตลาดอื่นๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง ยุโรป แอฟริกา และลาตินอเมริกา รวมกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

14
7 อาหารสุขภาพ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     การดูแลระบบขับถ่ายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพของเรา ระบบขับถ่ายมีหน้าที่ในการกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย หากระบบขับถ่ายทำงานไม่ดี ของเสียเหล่านี้อาจสะสมในร่างกายและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ท้องผูกและการเกิดสารพิษที่ส่งผลต่อระบบอื่น ๆ นอกจากนี้การขับถ่ายยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกายด้วย การขับถ่ายปัสสาวะสามารถช่วยกำจัดเกลือส่วนเกินและสารพิษออกจากร่างกายได้บางส่วน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

     อาหารที่เราทานสามารถส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่ายของเรา การบริโภคอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายให้เป็นไปอย่างปกติและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญ โดย 7 อาหารที่ดีต่อระบบขับถ่ายที่เราควรรับประทาน มีดังนี้


7 อาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย


1. ผักใบเขียว

     ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และบรอกโคลี เป็นแหล่งของไฟเบอร์ที่สูง ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและทำให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น


2. ผลไม้ที่มีเส้นใยสูง

     ผลไม้ที่มีเส้นใยสูง เช่น แอปเปิ้ล ลูกแพร์ และเบอร์รี่ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้และลดความเสี่ยงของการเกิดท้องผูก


3. ธัญพืชเต็มเมล็ด

     ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง และควินัว เป็นแหล่งของไฟเบอร์ที่ดี ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางเดินอาหาร


4. โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากนม

โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากนม อาหารดีต่อระบบขับถ่าย ระบบขับถ่าย ท้องผูก

     โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีจุลินทรีย์ที่ดี (Probiotics) ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ส่งผลดีต่อการย่อยอาหารและการขับถ่าย


5. เมล็ดเจีย

     เมล็ดเจียเป็นแหล่งของไฟเบอร์และกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย


6. ถั่วและพืชตระกูลถั่ว

     ถั่วและพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง และถั่วเหลือง อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้และลดปัญหาท้องผูก


7. น้ำ

     น้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยทำให้อุจจาระนุ่มลงและลดความเสี่ยงของการเกิดอาการท้องผูก

15
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



หน้า: [1] 2 3 ... 28