งานออกแบบภายในนั้น เป็นได้มากกว่าการเลือกสีที่ถูกใจและวัสดุที่จะนำมาทำผ้าม่าน แล้วก็หวังว่าทุกอย่างจะไปได้สวย (ถึงแม้ว่าทั้งสองอย่างที่กล่าวมานั้นจะเป็นเรื่องสนุกที่ทำได้ก็ตาม) การออกแบบตกแต่งภายในแบบมืออาชีพนั้น
ต้องอาศัยความเข้าใจที่แตกฉานของรากฐานในงานตกแต่ง เพื่อที่จะสามารถออกแบบพื้นที่ใด ๆ ให้ออกมาโดดเด่นสะดุดตาได้ ในบทความความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 7 องค์ประกอบของการออกแบบภายใน ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจหลักการและสามารถสร้างสรรค์งานตกแต่งภายในที่ดีขึ้นได้
ถ้าอย่างนั้น องค์ประกอบทั้ง 7 อย่างนี้คืออะไรกันล่ะ?
พื้นที่
ความเข้าใจในเรื่องพื้นที่
คือหลักการที่สำคัญที่สุดและเป็นพื้นฐานให้แก่คอนเซ็ปของงานดีไซน์ทุกรูปแบบ
จึงเป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงเป็นอันดับแรก
พื้นที่คือสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางในงานดีไซน์
ตั้งแต่แบบแปลนของพื้นที่ไปจนถึงรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์
หัวใจสำคัญคือการหาจุดสมดุลของพื้นที่ว่างและพื้นที่ใช้สอย
โดยที่พื้นที่ใช้สอยจะถูกใช้เพื่อวางเฟอร์นิเจอร์และวัตถุต่าง ๆ ส่วนพื้นที่ว่างจะถูกปล่อยโล่งไว้
เมื่อรวมทั้งสองส่วนนี้เข้าด้วยกัน จะทำให้พื้นที่นั้นโดดเด่น ลื่นไหลและสบายตา ดังนั้น
ความสมดุลระหว่างสองพื้นที่นี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม
หากความสมดุลนี้ถูกปรับให้เอนไปด้านใดด้านหนึ่ง
ก็จะทำให้เกิดรูปแบบของงานออกแบบที่เฉพาะตัวออกมาอีก เช่นในงานตกแต่งแบบมินิมอล
มักจะเว้นพื้นที่ว่างไว้มากกว่า ขณะที่งานตกแต่งแบบแมกซิมอลลิสจะเน้นการเติมเต็มพื้นที่มากกว่า
แสง
องค์ประกอบอย่างต่อไปที่มีอิทธิพลต่องานออกแบบคือปริมาณของแสงในพื้นที่
เราต้องคำนึงถึงปริมาณของแสงธรรมชาติและจากหลอดไฟประดิษฐ์
นอกจากหน้าที่หลักในการให้แสงสว่างแล้ว แสงยังส่งอิทธิพลต่อความรู้สึกในพื้นที่นั้น ๆ อีกด้วย
ดังนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องเลือกใช้แสงแบบต่าง ๆ คือ
ความรู้สึกที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น และวัตถุประสงค์ในการใช้งานของพื้นที่นั้น
ยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ เช่นแสงที่ต้องใช้ในห้องครัว จะแตกต่างกับในห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน
แสงที่ใช้ในห้องครัวจะต้องมีมากพอเพื่อการทำงานที่ราบรื่น ดังนั้น
เราควรเลือกแสงไฟแบบสปอตไลท์ หรือหลอดไฟที่มีกำลังวัตต์สูง
เพื่อให้สามารถมองเห็นอาหารและวัตถุดิบที่ต้องเตรียมได้ชัดเจน ส่วนห้องนั่งเล่นเล่น
ควรที่จะใช้แสงไฟโทนอุ่นเพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย
การใช้แสงไฟแบบปรับระดับแสงได้สำหรับหลอดไฟหลักในห้องก็จะช่วยสร้างมิติที่หลากหลายขึ้นในบริเวณได้อีกด้วย
ลายเส้น
ลายเส้นคือสิ่งที่จะช่วยนำสายตาไปทั่วทั้งบริเวณห้อง
และเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่นักตกแต่งภายในใช้เพื่อกำหนดทิศทางในงานของพวกเขา
ลายเส้นแนวตั้ง แนวนอน หรือแบบผสมผสานล้วนให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันในพื้นที่ของงานดีไซน์
ลายเส้นแนวนอน มักถูกใช้ในพื้นที่ ๆ ต้องการความรู้สึกมั่นคง มีแบบแผนและเป็นทางการ
และช่วยให้พื้นที่ดูกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งลายเส้นรูปแบบนี้ จะถูกใช้ผ่านงานเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เช่น
โต๊ะ เก้าอี้ และวัสดุปูพื้น
ลายเส้นแนวตั้ง ดึงสายตาให้มองขึ้นไปด้านบน ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่มีความสูง
ซึ่งเราสามารถสร้างความรู้สึกแบบนี้ได้ผ่านการองค์ประกอบหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ประตู
หน้าต่าง จนถึงวอลเปเปอร์และแผ่นไม้ตกแต่ง
ลายเส้นแบบผสม มหายรวมถึงเส้นโค้ง เส้นทแยง
และลายเส้นซิกแซกซึ่งดึงดูดสายตาและทำให้พื้นที่ดูมีชีวิตชีวา
บันไดเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มลายเส้นเหล่านี้ลงไปได้ และมักถูกใช้ร่วมกับลายเส้นของราวบันได
ทำให้เกิดมิติและวามน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น
พื้นผิวสัมผัส
พื้นผิวสัมผัสหรือเท็กซ์เจอร์ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของงานออกแบบที่มักถูกมองข้ามไป
เท็กซ์เจอร์ในงานออกแบบ หมายถึงรูปแบบและความรู้สึกที่ได้รับจากการสัมผัสหรือมองพื้นผิวนั้น ๆ
เราสามารถนำพื้นผิวรูปแบบต่าง ๆ มาใช้ร่วมกันเพื่อสร้างความรู้สึกที่แตกต่างออกไปได้
การใช้พื้นผิวสัมผัสสองแบบที่แตกต่างกันจะช่วยเพิ่มมิติและความน่าสนใจในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น
พื้นผิวหยาบแข็งตัดกับความนุ่มเป็นตัวเลือกที่สร้างสมดุลให้กับพื้นที่ได้ดี
รูปทรง
รูปทรงของพื้นที่ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่รูปทรงของห้องเท่านั้น แต่รวมถึงวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ในห้องอีกด้วย
รูปทรงเรขาคณิตที่มีลายเส้นคมชัด
หรือรูปทรงจากวัสดุจากธรรมชาติก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นเดียวกัน
รูปทรงเป็นองค์ประกอบในงานออกแบบอีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผลลัพธ์ต่องานดีไซน์โดยตรง
การวางวัตถุต่าง ๆ ไว้รอบ ๆ
จุดในพื้นที่ที่ต้องการเป็นวิธีตกแต่งพื้นที่อย่างชาญฉลาดในการทำให้งานดีไซน์ที่ต้องการกลายเป็น
จุดเด่นของห้อง เช่นเตาผิง หรือกรอบหน้าต่างที่มีชานพักยื่นออกไปด้านนอก
เมื่อเราเลือกใช้รูปทรงที่ตอบรับกับงานดีไซน์ที่ต้องการ
รูปทรงเหล่านั้นจะเล่าเรื่องราวที่เราต้องการออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
โทนสี
การเลือกใช้สีในงานดีไซน์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากอย่างไม่ต้องสงสัย
และอาจจะเป็นสิ่งแรกที่คุณนึกถึงเมื่อเห็นบทความของเราในตอนต้น สีมีอิทธิพลมากกว่าที่คุณคิด
จิตวิทยาของสีมีบทบาทอย่างมากต่อความรู้สึกของเราเมื่อต้องใช้พื้นที่นั้น
ตัวอย่างเช่นสีแดงเป็นโทนสีร้อนที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตื่นเต้นและมีชีวิตชีวา อย่างไรก็ดี
หากมีการใช้สีแดงมากเกินไป จะทำให้รู้สึกอึดอัดหรือโกรธได้
ดังนั้นจึงต้องมีการเบรกความร้อนของโทนสีด้วยการเสริมสีโทนกลาง ๆ ลงไปในบริเวณด้วย
กฎที่สำคัญอีกข้อหนึ่งในการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับสีคือ สีโทนเข้ม จะทำให้ห้องดูเล็กลง
และสีโทนสว่างจะทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น.
ลวดลาย
ลวดลาย คือองค์ประกอบอย่างที่เจ็ดในงานดีไซน์ที่คุณควรคำนึงถึง ลวดลายแบบต่าง ๆ
ที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับสีและลายเส้น จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่ หรือเชื่อมพื้นที่ส่วนต่าง ๆ
เข้าหากันได้ เลือกใช้ลวดลายกับองค์ประกอบตกแต่งที่อยู่ในห้อง เช่น
เทคนิคการทาสีให้เกิดลวดลาย การใช้วอลเปเปอร์ ผ้าม่าน และวัสดุบุเฟอร์นิเจอร์
ควรคำนึงถึงฟังก์ชั่นของพื้นที่นั้น ๆ ก่อนเลือกลวดลายและปริมาณของลายที่จะใช้เสมอ
รับออกแบบบ้าน: องค์ประกอบของงานออกแบบภายในที่ดีมีอะไรบ้าง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/